ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ
1.QBPBSTAS Balance Sheet 8,910--->8,954 หลังจากประกาศของเฟดเมื่อคืนวันที่ 16 ที่ผ่านมา เฟดได้เข้าซื้อ พธบ.เพิ่ม ( หนุนทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.08029%---> 0.32871% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวขึ้น กดดันทองคำ )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% ได้ปรับตัวลงที่ 68.3%--->51.6% #กดดันทองคำ
4.Reverse repo rate 1,659--->1,715 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทองขึ้นได้ไม่มาก ( ค่อนข้างหนุนทองคำ )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.86--->2.9 ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ไม่ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึงการลดงบดุล( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
6.กองทุน SPDR วันที่ 21 ได้มีการซื้อทองคำ 1.16 ตัน ( อันนี้น่าคิดว่าทำไมกองทุนถึงเข้าซื้อทองติดต่อกัน3วัน #หนุนทองคำ )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.24 --->2.28 ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ไม่ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึงการลดงบดุล ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8. GVZCLS ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 22.23 ---> 22.20 ความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง เล็กน้อย ( กดดันทองคำ )
9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ HUI เริ่มกลับไปที่ ไฮเดิม ( หนุนทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจนส์ปรับสูงขึ้น ( กดดันทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย -0.707 ---> -0.569มีการปรับตัวขึ้นมา( กดดันทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.153 --->2.331 ( ค่อนข้างกดดันทอง )
13. TIP หรือตราสารหนี้ มีการปรับตัวลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.2096 --->98.8065 มีการปรับตัวสูงขึ้นหลังจากปธ.เฟด ให้สัมภาษณ์ ว่าจะมีการใช้มาตราเข้มงวดทางการเงิน ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15. SILVER แร่โลหะ ปรับตัวขึ้น ( หนุนทองคำ )
16. GGOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน เริ่มมีสัญญาณในแดนลบ ในรูปแบบการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tipsคือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.031( กดดันทองคำ )
18. UUS10Y-US02Y 0.183 ---> 0.152 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( หากลดลงเรื่อยๆก็เริ่มจะหนุนทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 1.25 ---> 0.55 มีการปรับตัวร่วงลงอาจทำให้ทองคำลงได้ไม่มาก ( หนุนทองคำ )
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 26 ---> 40 ยังอยู่ในแดนกลัว หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ ( กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 112.38$ USOIL ราคาน้ำมันยังมีการถูกกดดันจากภาคสถาบันการเงินในการคว่ำบาตรของรัสเซียและการกดราคาของตลาดน้ำมันแถบทะเลทราย อิหร่าน เวเน และอื่นๆเป็นต้น ( หนุนทองคำ )

สรุป ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รอคอยมานานจากธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) นักลงทุนจะจับตามองว่าหุ้นจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนหรือความผันผวนมากขึ้นรออยู่ สงครามในยูเครนจะยังคงอยู่ในความสนใจ โดยตลาดยังคงติดตามพาดหัวข่าวต่อไป ตลาดน้ำมันสงบลง แต่ความกังวลเรื่องการขาดแคลนอุปทานยังคงอยู่ข้างหน้า ปฏิทินเศรษฐกิจนั้นเบาบาง แต่จะมีการปรากฏตัวสองครั้งจากประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ยูโรโซนและสหราชอาณาจักรจะเปิดเผยข้อมูล PMI

แนวต้านสำคัญ
  • 1962.28
  • 1952.92
  • 1946.05
  • 1939.72

    แนวรับสำคัญ
  • 1920.46
  • 1913.58
  • 1907.52
  • 1898344


ยังไงก็ดีผลกระทบทองคำสำคัญหลักๆอยู่ 5 ปัจจัย
1.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
2.สงครามยูเครน-รัสเซีย
3.การแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด
4.ราคาน้ำมัน
5.ยูโร และ PMIs ของอังกฤษ
ที่นักลงทุนทุกท่านควรติดตามสถานการณ์ต่างเพื่อไม่พลาดในการลงทุน
ตอนนี้เราได้จัดทำกลุ่มไลน์พูดคุย เฟสบุ๊ค รวมถึงเพจไว้แชร์ข่าวสารต่างๆให้ท่านได้ติดตาม
ขอบคุณครับ

Beyond Technical AnalysisFundamental AnalysisTrend Analysis

يعمل أيضًا:

إخلاء المسؤولية