١٥ سبتمبر
สรุปภาพรวมตลาดจากกราฟ SET50 Index Futures (S50U2024) จะประเมินจาก Timeframe Day และ 30 นาที โดยแบ่งออกเป็นสองมุมมองหลัก คือ ภาพรวมตลาดระยะกลาง และ ภาพรวมตลาดระยะสั้น ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้: 1. ภาพรวมตลาดระยะกลาง (Timeframe Day): - หลังจากที่เกิด Selling Climax ในวันที่ 05/08/2567 บริเวณราคา 792.5 แสดงถึงจุดต่ำสุดที่นักลงทุนขายหนักและราคาไม่สามารถลงต่อได้ - วันที่ 07/08/2567 ราคาปิดเหนือ POC และเกิดสัญญาณ TD Price Flip ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น - TD Bullish Flip ในวันที่ 15/08/2567 สนับสนุนการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิด TD Sell Setup นับ 9 ในวันที่ 09/09/2567 ซึ่งบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่ตลาดอาจหยุดพักหรือย่อตัวได้ - การปรับตัวขึ้นมาพร้อม Volume สูงกว่า 1.5 เท่าของค่าเฉลี่ย บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น และการเกิด Breakout ที่ราคาสูงสุด 910.3 ในวันที่ 6/09/2567 ถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ - อย่างไรก็ตาม หลังจากการขึ้นแรง ตลาดเข้าสู่ ภาวะพักตัว ในกรอบ 906.1 - 887.5 สะท้อนถึงแรงขายที่เกิดขึ้นในระยะสั้น - สถานะของ TD Countdown นับถึง 6 แสดงว่ายังมีโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวขึ้นไปนับครบ 13 ก่อนที่จะเกิดการย่อตัวหรือกลับเทรนด์ลง 2. ภาพรวมตลาดระยะสั้น (Timeframe 30 นาที): - แนวโน้มขาขึ้นหลักยังแข็งแรง แต่ขณะนี้ตลาดอยู่ในช่วงพักตัว - กรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 906.1 - 887.5 สะท้อนถึงการสะสมพลังสำหรับการ Breakout หรือ Breakdown ในรอบถัดไป - TD Countdown รอการนับครบ 13 เมื่อราคาทำ High เกิน 905.8 ซึ่งหากเกิดขึ้นจะบ่งชี้ถึงโอกาสที่ตลาดอาจกลับตัวในระยะสั้นหรือพักตัวต่อ - จาก Volume Profile บริเวณ 904.3 - 896.4 เป็นโซนที่มีการเทรดมากที่สุด โดยมี POC ที่ 898.8 ซึ่งเป็นจุดสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย - MACD ที่ยังอยู่ในโซนบวกแต่ต่ำกว่าเส้น Signal บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแอลง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน - การพักตัวในช่วงนี้เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังรอการยืนยันจากปัจจัยอื่น ๆ ก่อนที่จะเลือกทิศทาง 3. สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดในขณะนี้มีสัญญาณ แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่แข็งแรง แต่ในระยะสั้นตลาดกำลัง เข้าสู่ภาวะพักตัว หลังจากการปรับตัวขึ้นแรง การเกิดสัญญาณ TD Sequential และการย่อตัวในช่วงนี้ยังไม่ใช่สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลงอย่างชัดเจน ตลาดยังมีโอกาสที่จะแข็งแรงต่อได้หากสามารถ Breakout จากกรอบพักตัวได้ที่ระดับราคาประมาณ 906 - 910 จุด กลยุทธ์การลงทุนสำหรับ **SET50 Index Futures (S50U2024)** ในสัปดาห์ต่อไป ### 1. Scenario 1: การ Breakout และขาขึ้นต่อเนื่อง **สมมติฐาน**: - ตลาดมีแรงซื้อมากพอและราคาทะลุกรอบพักตัว 906.1 - 910 จุดขึ้นไป พร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดพร้อมจะปรับตัวขึ้นต่อ **กลยุทธ์**: - เปิดสถานะ Long เมื่อราคาทะลุ 910 จุด** พร้อมกับการยืนยันจาก Volume ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5 เท่าของค่าเฉลี่ย (อ้างอิงจาก Volume ของแท่งที่ Breakout) - **Take Profit** ในกรณีที่ราคาขึ้นไปถึงแนวต้านต่อไปที่ระดับ 920-930 จุด โดยดูการนับ TD Countdown ว่าครบ 13 หรือยัง และตรวจสอบ Volume ที่อาจลดลงเมื่อใกล้ถึงแนวต้าน - **Stop Loss** หากราคาปิดต่ำกว่า 906 จุด หลังจากที่ได้ Breakout ขึ้นไป เนื่องจากเป็นสัญญาณของ False Breakout ### 2. Scenario 2: การพักตัวต่อเนื่องในกรอบ 906.1 - 887.5 **สมมติฐาน**: - ตลาดยังไม่มีแรงซื้อเพียงพอที่จะ Breakout แต่ยังอยู่ในภาวะพักตัว ซึ่งอาจเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 906.1 - 887.5 จุด **กลยุทธ์**: - หากราคายังไม่สามารถ Breakout ได้ ให้อาศัยกลยุทธ์ **การเทรดในกรอบ** (Range Trading) โดยเปิดสถานะ **Long ใกล้แนวรับ 887.5** และเปิดสถานะ **Short ใกล้แนวต้าน 906.1** - **Take Profit** เมื่อราคากลับไปยังกลางกรอบหรือใกล้ขอบกรอบ โดยใช้ Volume Profile และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมในช่วงการเคลื่อนไหว - **Stop Loss** สำหรับการเปิดสถานะ Long ควรตั้งไว้ต่ำกว่าระดับ 880 จุด และสำหรับสถานะ Short ตั้งไว้เหนือ 910 จุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการ Breakout หรือ Breakdown ที่อาจเกิดขึ้น ### 3. Scenario 3: การปรับฐานลง (Breakdown) **สมมติฐาน**: - ราคาหลุดกรอบ 887.5 จุดลงมา โดย Volume เพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงการย่อตัวลึกหรือตลาดเข้าสู่การปรับฐานระยะสั้น **กลยุทธ์**: - **เปิดสถานะ Short เมื่อราคาหลุดต่ำกว่า 887.5 จุด** พร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้นกว่า 1.5 เท่าของค่าเฉลี่ยเพื่อยืนยันการ Breakdown - **Take Profit** ที่ระดับแนวรับถัดไปบริเวณ 880 จุด และ 875 จุด หากโมเมนตัมขาลงยังคงแข็งแรง - **Stop Loss** หากราคากลับขึ้นมาปิดเหนือ 892-893 จุด ซึ่งเป็นโซน Volume Profile ที่มีการสะสมแรงซื้อขายอย่างมาก อาจบ่งบอกถึงการเกิด False Breakdown สรุป: ในสัปดาห์หน้า ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ และมีโอกาสเกิดทั้งการ Breakout ขึ้นต่อเนื่องหรือพักตัวออกข้าง ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีควรมีการปรับตัวตามสถานการณ์ หากมีการ Breakout ให้เน้นเปิดสถานะ Long แต่หากตลาดพักตัวหรือย่อตัวลง ควรปรับกลยุทธ์เป็นการเทรดในกรอบหรือเปิดสถานะ Short