٢١ أكتوبر ٢٠١٨
SET Index แนวโน้มยังลบต่อเนื่อง โดยดัชนีถูกกดดัน จากปัจจัยต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่การหายตัวไปของ จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ ที่ถือสัญชาติสหรัฐฯ ที่มักเขียนข่าวพาดพิงราชวงศ์ซาอุฯ โดยต้องสงสัยว่ารัฐบาลซาอุฯ อยู่เบื้องหลัง และนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่เป็นลบต่อชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ขณะที่ประเด็นสงครามการค้า จีน-สหรัฐฯ แม้สหรัฐฯ จะละเว้นถ้อยคำที่ว่าจีนเป็นชาติที่เบี่ยงเบนค่าเงิน แต่ตลาดส่วนใหญ่มองแล้วว่าประเด็นนี้จะยืดเยื้อยาวนาน และอาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุด สหรัฐฯ เตรียมลาออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพไปรษณีย์สากล โดยมองว่าองค์กรดังกล่าวเอื้อประโยชน์ ต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน ที่ได้รับสิทธิ์ให้กำหนดเพดานราคาพัสดุขนาดเล็กให้มีราคาถูกทั้งแนวโน้มระยะสั้น วันซึ่งไม่ได้แปลว่า D1 วันดูแล้วจบ และ ระยะกลาง ซึ่งไม่ได้แปลว่าดู W1 สัปดาห์แล้วจบ ยังเป็นขาลงทั้งหมด โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด แนวโน้มค่าเงินบาท อ่อนค่าเล็กน้อย มาอยู่ที่ 32.57 THB/USD แต่แนวโน้มระยะกลางยังเป็นด้านแข็งค่าได้ต่อไป การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ต่างชาติยังถล่มขายสุทธิหนักมือติดต่อกัน ดัชนีก็ยังถูกกดดันต่อไป แนวโน้มราคาทองคำ แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น หลังทะลุผ่านแนว 1,200 USD ขึ้นมาได้ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ ดิ่งลงมาจาก 85 USD เหลือ 80 USD แต่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นได้อยู่ (เชิงบวก) MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นสัปดาห์ที่ทิศทางแนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลง ในเชิงลบ ส่วนระยะกลางยังเป็นขาขึ้นได้ ในเชิงบวก