KOREA:ธ.กลางเกาหลีใต้ปรับลดดบ.ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009

٢٨ نوفمبر ٢٠٢٤٠٢:٤٦ UTC

โซล--28 พ.ย.--รอยเตอร์

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 3.00% ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2009 ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่อยู่ในภาวะชะงักงัน และอัตราเงินเฟ้อเกาหลีใต้ชะลอตัวลงมากเกินคาด โดยก่อนหน้านี้ BOK ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เช่นกันในการประชุมครั้งที่แล้วในวันที่ 11 ต.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2020 เป็นต้นมา ทั้งนี้ การประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ถือเป็นสิ่งที่ผิดคาด เพราะว่าก่อนหน้านี้มีนักเศรษฐศาสตร์เพียงแค่ 4 จาก 38 รายในโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า BOK จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันนี้ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่เหลืออีก 34 รายในโพลล์คาดว่า BOK จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.25% ตามเดิมในวันนี้
เศรษฐกิจเกาหลีใต้เพิ่งหลีกเลี่ยงจากภาวะถดถอยได้อย่างฉิวเฉียดในไตรมาสสาม ในขณะที่เศรษฐกิจเติบโต 0.1% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากหดตัวลง 0.2% ในไตรมาสสองเมื่อเทียบรายไตรมาส นอกจากนี้ เศรษฐกิจก็เติบโต 1.5% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2023 เป็นต้นมา หลังจากเติบโต 2.3% ในไตรมาสสองเมื่อเทียบรายปี
BOK คาดการณ์ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจเติบโต 2.2% ในปีนี้ โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.4% และคาดว่าเศรษฐกิจอาจจะเติบโต 1.9% ในปีหน้า โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.1% นอกจากนี้ BOK ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคอาจอยู่ที่ 2.3% ในปีนี้ โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.5%
วอนอ่อนค่าลง 0.16% สู่ 1,395 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ โดยวอนดิ่งลงมาแล้วราว 7.6% จากช่วงต้นปีนี้ ซึ่งส่งผลให้วอนถือเป็นสกุลเงินที่ดิ่งลงมากที่สุดในเอเชียในปีนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กำลังกังวลกับแผนการด้านภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสื่อเกาหลีใต้รายงานในสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาเรื่องการร่างงบประมาณเพิ่มเติมในช่วงต้นปีหน้า เพื่อจะได้รับมือกับปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ตกต่ำลง และรับมือกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
มิน จี-ฮี นักวิเคราะห์ของบล.มิราเอะ แอสเซทระบุว่า "นโยบายของนายทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอน ดังนั้นดอลลาร์/วอนจึงดูเหมือนจะได้รับแรงหนุนให้ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากนายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ" ในช่วงต้นปีหน้า--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;